ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาการเกษตรธรรมชาติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านอรุโณทัย ศูนย์เรียนรู้ IoT ทางการเกษตร

คำอธิบาย

ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาการเกษตรธรรมชาติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านอรุโณทัย ศูนย์เรียนรู้ IoT ทางการเกษตร

มีวัตถุประสงค์ให้องค์ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนแนวความคิดและพฤติกรรมการทำการเกษตรของเกษตรกร ให้เกิดการยอมรับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปประยุกต์ใช้ในฟาร์มการเกษตร ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้เกษตรกรให้เกษตรกรได้สัมผัสและใช้งานจริงกับระบบอุปกรณ์เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อให้เกษตรกรได้ลงมือปฏิบัติ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสนอแนะแนวการการปรับการใช้งานของอุปกรณ์ให้เหมาะสมสำหรับฟาร์มชนิดต่างๆ โดยทำการเก็บข้อมูล ต้นทุนการผลิต ปริมาณและคุณภาพผลผลิต ปรับเปลี่ยนการทำการเกษตร ตระหนักถึงการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาการเกษตรธรรมชาติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านอรุโณทัย จะประกอบไปด้วย
เเปลงสวนยาง
เเปลงทุเรียน หมอนทอง มูซานคิง หลงลับเเล หลินลับเเล
เเปลงสัมโอทับทึมสยาม ขาวน้ำผึ้ง ขาวเเตงกวา
เเปลงอะบิว
เเปลงหน่อไม้ฝรั่ง
เเปลงกุ้ยฉ่าย
เเปลงผลไม้เมืองหนาว สาลี เเอปเปิ้ล ลูกท้อ ลูกไหน
เเปลงผักอินทรีย์
เเปลงมะละกอ ฮอลเเลนด์
เเปลงข้าวอินทรีย์
เเปลงเมล่อน
เเปลงองุ่น
เเปลงเพาะพันธุ์ไม้ นานาชนิด
ฟาร์มเลี้ยงไส้เดือน
ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่
ฟาร์มเลี้ยงไก่ดำ
ฟาร์มเลี้ยงกระต่าย
ทางศูนย์เรียนรู้ ใช้ระบบบริหารจัดการ IoT ผ่านแพลตฟอร์ม AgroX Pro เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการดูเเลศูนย์เรียนรู้อย่างครบวงจร

ชุดอุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้ง มีชื่อว่า AgroX Pro เป็นผลิตภัณฑ์ระบบควบคุมและการบริหารจัดการปัจจัยด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรการประมง และปศุสัตว์อาทิ เช่น น้ำ ดิน แสงแดด ลม ค่าความเป็นกรดและด่าง หรือค่าต่างๆที่มีผลแปรผันตรงต่อพืชและสัตว์ เป็นต้น โดยระบบจะสามารถสั่งการและทำงานได้อัตโนมัติแบบไร้สายด้วยตัวเอง ตามเงื่อนไขความสัมพันธ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานต้องการรวมถึงระบบยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวช่วยในขับเคลื่อนการทำงาน 
มีการส่งค่าข้อมูลเก็บขึ้นไว้ในระบบคลาวด์ (Cloud) สามารถตรวจสอบค่าข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อต่อยอดสู่การวิเคราะห์และพัฒนาด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์

1.สถานีหลัก (Gateway) ทำหน้าที่รับและส่งข้อมูลจาก Node ทั้งหมดขึ้น Cloud และเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับ Application
2.อุปกรณ์วัดค่าสภาพแวดล้อม (Node Sensors)
2.1) อุปกรณ์วัดความชื้นในดิน (Node Soil moisture Sensor)
2.2) อุปกรณ์วัดความชื้นและอุณหภูมิในอากาศ (Node Humidity & Temperature Sensor)
2.3) อุปกรณ์วัดระดับน้ำ (Node Water Level Sensor)
2.4) อุปกรณ์วัดความเป็นกรด/ด่าง (Node pH Meter)
2.5) อุปกรณ์วัดปริมาณธาตุอาหารในน้ำและดิน (Node EC Meter)
2.6) อุปกรณ์วัดความเข้มแสง (Node Light Sensor)
2.7) อุปกรณ์วัดปริมาณฝุ่นในอากาศ (Node PM2.5, PM10)
2.8) อุปกรณ์วัดความเร็วลม (Node Wind Speed Sensor)
2.9) อุปกรณ์วัดทิศทางลม (Node Wind Direction Sensor)
2.10) อุปกรณ์วัดแรงดันน้ำ (Node Pressure Sensor)
2.11) อุปกรณ์วัดอัตราการไหลของน้ำ (Node flow Sensor)
3.อุปกรณ์ควบคุม (Node Control)
3.1) อุปกรณ์เปิด – ปิดวาล์วน้ำ (Node Control Valve)
3.2) อุปกรณ์ความคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า (Node Control Device)
4.แหล่งพลังงานของอุปกรณ์
-สามารถเลือกได้ 2 แหล่งจ่าย จากพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ หรือ จากพลังงาน ไฟฟ้า AC Adapter 5V/1A
5.การติดต่อสื่อสาร
5.1) การติดต่อสื่อสารภายในระบบ ใช้การสื่อสารโมดูลเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสถานี ด้วย Xbee 3 ระยะทางการส่งประมาณ 1.2 Km (ในที่โล่ง Line-Of-Sight)
5.2) การสื่อสารนอกระบบ (Device to Cloud / Mobile App) สื่อสารผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ตโดยรองรับ
3G / 4G / 5G
6. Application ที่จะช่วยแสดงค่าทุกอุปกรณ์วัดค่า และควบคุมการทำงานตามความต้องการ รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย
7. Dashboard คือพื้นที่การเก็บข้อมูลของอุปกรณ์ตั้งแต่อุปกรณ์เริ่มทำงานจนถึงปัจจุบัน สามารถเรียกด้วยค่าข้อมูลต่างๆแบบย้อนหลังได้ เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ การต่อยอด และการพัฒนา

Metaverse หรือจักรวาลนฤมิตที่อยู่เหนือจินตนาการ เป็นเมกะเทรนด์โลกที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง การใช้ชีวิต การทำงานและการทำธุรกิจ ในโลกจริงสู่ธุรกิจใหม่ในโลกเสมือนจริง ที่ครอบคลุมแทบทุกมิติ ทำให้ผู้คนและภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆหันมาสนใจและต้องการนำแนวคิดนี้มาปรับใช้เพื่อจะได้ตอบสนองต่อความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อ ศิลปะ บันเทิง มีเดีย เกม อีคอมเมิร์ช การศึกษา การตลาด การค้าออนไลน์ การสร้างแบรนด์ การ ออกแบบ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ การเงินการธนาคาร เป็นต้น การเกิด วิกฤตโควิด-19 ช่วยเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้ เราก้าวเข้าสู่ Metaverse ได้เร็วขึ้น รวมถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ ถูกพัฒนาให้มีความพร้อมจะถูกเปลี่ยน ผ่านจากอินเทอร์เน็ตยุคเดิมมาเป็น อินเทอร์เน็ตยุคใหม่

ปี2022 คาดว่ามูลค่าขนาดตลาดMetaverseทั่วโลกอยู่ที่ 47.48พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น เป็น678.8พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี2030 ถือเป็นการเปลี่ยนผ่าน สู่อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของ Metaverse ที่โลกจริงและโลกเสมือนดิจิทัลมา รวมกัน
Metaverse สำหรับธุรกิจ SMEs
Metaverse จะมีส่วนช่วยเสริมศักยภาพในการทำธุรกิจให้เอสเอ็มอี จากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถนำมาซึ่งการเติบโตอย่างมากสำหรบธุรกิจ

ทางบริษัทเห็นช่องทางโอกาส จึงพัฒนา จักรวาลนฤมิตเกษตรขึ้น